กรมชลประทาน เร่งเก็บกับน้ำในพื้นที่ตอนบนเพื่อไว้ใช้ในหน้าแล้ง หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาด 21-25 ก.ย.นี้ ไทยยังมีฝนตกทั่วทุกภาค ส่วนปลายเร่งระบายออกทะเลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอีก 20 จังหวัด
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศว่า วันที่ 21 ก.ย.65 มีปริมาณน้ำรวมกัน 53,031 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 70 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 23,066 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 15,330 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 9,541 ล้าน ลบ.ม. ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี

โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า วันที่ 21-25 ก.ย.65ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นทั่วทุกภาค ซึ่งกรมชลประทาน จะได้บริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยตอนบนจะเก็บกักน้ำไว้ในอ่างให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองไว้ใช้หน้าแล้ง ตอนกลางจะใช้เขื่อนเจ้าพระยาในการควบคุมปริมาณน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ และตอนปลายจะเร่งระบายออกสู่ทะเล โดยจะระบายทางตรงเป็นหลัก เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่

ส่วนพื้นที่ประสบอุทกภัยตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีจำนวน 47 จังหวัด ช่วยเหลือจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 27 จังหวัด ยังคงเหลืออีก 20 จังหวัด ซึ่งกรมชลประทาน ยังเดินหน้าให้ความช่วยเหลือไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมกำหนดคน และเครื่องจักร ประจำพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศรวม 5,382 หน่วย สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้ทาง www.rid.go.th https://www.facebook.com/Kromchon http://swoc.rid.go.th/ หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460