กรมชลฯ เดินหน้าบริหารจัดการน้ำหน้าแล้ง พร้อมขอเกษตรกรงดทำนาปรังรอบ2

วานนี้ (1 เม.ย. 67) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (swoc) กรมชลประทาน ดร.ธเนศร์  สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา  เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน (1 เม.ย. 67) พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 46,181 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม. ) หรือ 60% ของความจุอ่างฯ รวมกันเป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 22,239 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 12,620 ล้าน ลบ.ม. (51% ของความจุอ่างฯรวมกัน) ปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 5,924 ล้าน ลบ.ม.  ตั้งแต่ 1 พ.ย. 66 จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 ทั้งประเทศไปแล้วกว่า 19,883 ล้าน ลบ.ม. (80% ของแผน)  เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 7,224 ล้าน ลบ.ม. (83 % ของแผน)

ด้านสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวนาปรัง ทั้งประเทศมีการทำนาปรังไปแล้ว 9.05 ล้านไร่ หรือร้อยละ 156 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยา มีการทำนาปรังไปแล้ว 5.68 ล้านไร่ หรือร้อยละ 96 ของแผนฯ และขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปรังรอบ 2 ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ขอให้สำนักงานชลประทานทั่วประเทศ ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งาน และเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ ประจำพื้นที่เสี่ยงให้สามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้ทันที