จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2553 ปริมาณน้ำจากลุ่มน้ำลำปะทาวและห้วยยางบ่า ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและเศรษฐกิจอย่างมาก กรมชลประทาน จึงได้เดินหน้าศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาแหล่งน้ำและบริหารจัดการน้ำลำปะทาวและห้วยยางบ่า เพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ หวังยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สำหรับงานคลองผันน้ำลำปะหาว-สระเทวดา พร้อมอาคารประกอบ อยู่ในแผนงานโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ (ระยะที่ 1) ซึ่งประกอบด้วย การขุดขยายคลองผันน้ำลำปะทาว-สระเทวดา ให้สามารถระบายน้ำได้ 150 ลบ.ม./วินาที ซึ่งคืบหน้าแล้วกว่า 55% และมีการขุดคลองเชื่อมลำปะทาว-ห้วยดินแดง เพื่อช่วยผันน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50 ลบ.ม./วินาที ก่อสร้างแล้วเสร็จและใช้งานแล้วตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งโครงการฯ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำหลาก บรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เฉลี่ยปีละ 20,000 ไร่ และสามารถส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกในฤดูฝนได้ประมาณ 18,610 ไร่ และในฤดูแล้งได้กว่า 1,850 ไร่ ตลอดจนใช้เป็นเส้นทางทางสัญจรและลำเลียงผลผลิตทางการเกษตรได้อีกทางหนึ่งด้วย
โดยในวันที่ 8-9 มิถุนายน 2567 นี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะลงพื้นที่ไปติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนบน พร้อมพบปะพี่น้องชาวชัยภูมิ เพื่อรับฟังปัญหา ความต้องการ และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน รวมไปถึงการติดตามและขับเคลื่อนงานนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างรายได้และอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป