กรมส่งเสริมการเกษตร รับสมัครเกษตรกร ร่วมเปลี่ยนข้าวนาปรังเป็นพืชใช้น้ำน้อยภายในพฤษภาคม นี้

กรมส่งเสริมการเกษตร มุ่งเป้า ปี 66 และ ปี 67 ลดพื้นที่นาปรังให้ได้เกิน 10,000 ไร่ จัดเต็มแคมเปญพิเศษให้เกษตรกรมากกว่า 22 จังหวัด ที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้ ปี 66 และ ปี 67 ได้สิทธิพิศษเต็ม ๆ ทั้งจัดเวทีเสริมความรู้ ติดตามดูแล และเชื่อมโยงตลาด สมัครด่วน หมดเขต พ.ค.นี้

 

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ในปัจจุบันสภาพภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าปกติ หรือฝนตกไม่ตกต้องตามฤดูกาลเป็นระยะเวลานานกว่าปกติซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตข้าว อีกทั้งในช่วงฤดูแล้งปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆมักจะมีปริมาณจำกัด และสถานการณ์การผลิตข้าวของประเทศไทยยังมีความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน มีปริมาณผลผลิตเกินความต้องการใช้อยู่ประมาณ 2.25 ล้านตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 3.48 ล้านไร่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมีนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” บริหารจัดการผลผลิต ให้มีปริมาณสอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระทบต่อราคาข้าว

“ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งในพื้นที่ จึงมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 อยู่ระหว่างดำเนินการในเดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนกันยายน 2566 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กำหนดดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2566 ถึงเดือนเมษายน 2567 ภายใต้วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมพื้นที่การปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการทำนาปรัง และเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการผลิตกับตลาดพืชใช้น้ำน้อย รวมถึงเพื่อให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ในการปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการทำนาปรัง เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง พริก แตงโม ข้าวโพดหวาน และพืชอื่น ๆ ที่มีอายุการเก็บเกี่ยวไม่เกิน 120 วัน ” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว

สำหรับเป้าหมายการส่งเสริมตามโครงการฯ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ให้ข้อมูลว่า เน้นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูนาปรังใน 22 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย นครสวรรค์ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี แพร่ ลำปาง น่าน และจังหวัดตาก ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สระบุรี และกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ สกลนคร อุบลราชธานี และจังหวัดนครพนม ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา และภาคตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครปฐม ให้เข้าร่วมปีละมากกว่า 5,000 ราย อันนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนาปรังมาสู่พื้นที่ปลูกพืชใช้น้ำน้อยรวม 2 ปี มากกว่า 10,000 ไร่

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ขอเชิญชวนเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการ ฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนพฤษภาคม 2566 ณ สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ โดยกำหนดคุณสมบัติเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการฯ คือ มีความสนใจและมีประวัติการขึ้นทะเบียนเกษตรกรการทำนาปรัง แต่หากไม่มีประวัติ สามารถใช้วิธีรับรองประวัติการทำนาปรังผ่านเวทีชุมชนได้ สำหรับประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากโครงการฯ ได้แก่ องค์ความรู้ในการปลูกพืชใช้น้ำน้อยอายุน้อยกว่า 120 วัน ทดแทนในพื้นที่นาปรัง เรียนรู้การบริหารจัดการทั้งระบบ ตั้งแต่การผลิต คุณภาพผลผลิต และการตลาด ผ่านการจัดทำแปลงเรียนรู้ พร้อมทั้งเชื่อมโยงการผลิตกับตลาดร่วมกับผู้ประกอบการ นำไปสู่การจัดทำแผนการผลิตได้อย่างเหมาะสม และได้รับสนับสนุนปัจจัยการผลิตพืชใช้น้ำน้อย เพื่อจัดทำแปลงเรียนรู้พืชใช้น้ำน้อย เช่น เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย พลาสติกคลุมแปลง ถุงบรรจุผลผลิต หรือวัสดุที่จำเป็นต่อการผลิตพืชใช้น้ำน้อย ฯลฯ