นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก

“น้ำผึ้ง” หนึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพมวลมนุษยชาติ
สร้างผลผลิตน้ำผึ้งที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล เป็นรายได้หมุนเวียนให้แก่เกษตรกรกว่า 2,000 ล้านบาท ไม่รวมผลผลิตชนิดอื่น ๆ และผลิตภัณฑ์แปรรูป ซึ่งผลผลิตจากผึ้งของไทยที่มีการส่งออกนั้น เป็นผลผลิตที่ได้จากผึ้งพันธุ์ มีปริมาณผลผลิตน้ำผึ้งสูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน และเป็นอันดับที่ 36 ของโลก ทั้งนี้ ประเทศส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ไต้หวัน อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา สาธารณรับประชาชนจีน และซาอุดิอาระเบีย
วันที่ 20 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันผึ้งโลก (World Bee Day) โดยปี 2565 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินการจัดงานวันผึ้งโลกเป็นครั้งที่ 5 ณ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผึ้งร่มไทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ของเกษตรกร โดยได้รับความรู้ด้านการเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงจากกรมส่งเสริมการเกษตร และได้ขยายผลไปสู่ธุรกิจชุมชนโดยการนำน้ำผึ้งจากเกษตรกรในชุมชนมาแปรรูปและพัฒนาบรรจุภัณฑ์จนเป็นที่ยอมรับของตลาด สร้างอาชีพและรายได้หมุนเวียนในชุมชน การจัดงานผึ้งโลก ครั้งที่ 5

ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “คุณค่าของ “ผึ้ง” ต่อมวลมนุษยชาติ” โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การอภิปรายคณะ ในหัวข้อ “ยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงผึ้ง จากแมลงช่วยผสมเกสร สู่ธุรกิจชุมชน” นิทรรศการเทคโนโลยีการใช้แมลงช่วยผสมเกสร และการมอบรางวัลแก่เกษตรกรที่ชนะการประกวดน้ำผึ้งโพรงคุณภาพดี ปี 2565 ซึ่งครั้งนี้เป็นปีแรกในการประเมินผลคุณภาพของน้ำผึ้งด้วยมาตรฐานโลก ที่ใช้การตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ และนำผลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันคุณภาพของน้ำผึ้ง โดยผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 คือ นางสุภาพร สุทิน จ.นครศรีธรรมราช รองชนะเลิศอันดับ 1 คือ นายยุทธพงษ์ โสภณอำนวยกิจ จ.เชียงราย รองชนะเลิศอันดับ 2 คือ นายปัญญาพล ใหม่พรม จ.ตรัง และรางวัลชมเชย คือ นายสุรเดช จวนศรี จ.สุราษฎร์ธานี และนายธัญญา อินต๊ะมอย จ.พะเยา