กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมขับเคลื่อนงานโครงการเกษตรแปลงใหญ่ นำระบบบัญชีวางรากฐานพัฒนาศักยภาพเกษตรกร โดยปี 2565 นี้ มีเกษตรกรเป้าหมายได้รับความรู้การจัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพเกิน 100 เปอร์เซ็นต์
นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการเกษตร โดยดูแลเกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสมด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งลดต้นทุนการผลิต ช่วยเหลือปัจจัยการผลิต สนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ใช้กลไกการตลาดดูแลราคาสินค้าให้เหมาะสม และสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันผลิตและจำหน่ายผ่านโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขันด้านสินค้าและเชื่อมโยงตลาดมากขึ้น
รายงานตัวเลข ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีจำนวนเกษตรแปลงใหญ่ ตั้งแต่ปี 2559-2565 จำนวน 8,942 แปลง พื้นที่รวม 8,012,325 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 496,559 ราย โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมสนับสนุนนำระบบบัญชีไปสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร สามารถจัดทำบัญชีรับ – จ่าย ในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ นำข้อมูลทางบัญชีไปบริหารจัดการ และวางแผนการผลิตและการตลาดได้ โดยมีอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี หรือครูบัญชีอาสา เป็นกำลังสำคัญถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชี เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน
โดยปีงบประมาณ 2565 เกษตรกรเป้าหมายได้รับการพัฒนาความรู้ด้านการจัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ จำนวน 15,702 คน คิดเป็นร้อยละ 100.01 ของจำนวนเป้าหมาย และเกษตรกรที่มีความรู้และความเข้าใจในการจัดทำบัญชี จำนวน 11,060 คน คิดเป็นร้อยละ 70.44 ของจำนวนเป้าหมาย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565)
ด้านนายเกียรติศักดิ์ กายสุต ประธานเครือข่ายคณะกรรมการแปลงใหญ่ จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บริษัท โรงงาน ห้างร้านต่าง ๆ ปิดตัวลง ลูกหลานกลับมาภูมิลำเนาและสนใจทำการเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการทำบัญชี การแปรรูป และการตลาดมากกว่าคนรุ่นเก่า จึงเป็นผลดีต่อภาคการเกษตรโดยรวม