กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เร่งสานต่อ 2 ภารกิจหลัก ทั้งด้านการสอบบัญชี และการสอนบัญชีให้สหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร เพื่อสร้างความเข้มแข็งในระบบสหกรณ์ พร้อมปลูกฝังวินัยการเงิน การบัญชีให้กลุ่มเยาวชน นักเรียน และประชาชน
นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานและทิศทางการปฏิบัติงานปีงบประมาณ 2566 ว่า กรมฯยังคงสานต่อภารกิจหลักใน 2 ด้าน คือการสอบบัญชี และการสอนบัญชี เพื่อให้ระบบการเงิน การบัญชีของกลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวน 11,800 แห่ง รวมสมาชิกกว่า 12 ล้านคน และมีมูลค่าทางธุรกิจกว่า 3.58 ล้านล้านบาท เกิดความเข้มแข็ง และโปร่งใสมากที่สุด โดยมีผู้สอบบัญชีของกรมฯและผู้สอบบัญชีภาคเอกชน ทำหน้าที่ในการตรวจสอบบัญชีและระบบควบคุมภายในของสหกรณ์
ส่วนงานสอนบัญชี ยังเน้นการสอนไปที่กลุ่มเกษตรกร กลุ่มนักเรียน และประชาชนทั่วไป ขับเคลื่อนการสอนผ่านครูบัญชีอาสาทั่วประเทศจำนวน 7,636 รายผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการชุมชนคนทำบัญชีเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ในทุกอำเภอทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายมีประชาชนเข้ารับการอบรม 7 หมื่นราย รวมถึงการสนองงานตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผ่านโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อบรมสอนแนะการจัดทำบัญชีและกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน แก่โรงเรียนในสังกัด ตชด./สพฐ./สช./พศ.กทม.และอปท. จำนวน 524 แห่ง และโครงการต้นกล้าความดี สู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง มีเป้าหมายดำเนินการ 405 โรงเรียน
นอกจากนี้ยังเน้นพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ เช่น Smart4M โปรแกรมTrello โปรแกรมระบบเงินฝากOnlineด้วยเทคโนโลยีระบบCloud นวัตกรรมวิเคราะห์อายุหนี้เพื่อการบริหาร และนวัตกรรมอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ดำเนินธุรกิจและตรวจสอบสถานะทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการทุจริต โดยมีการจัดแสดงนวัตกรรมต่างๆ ในงานสัมมนาวิชาการที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 25-27 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา