อัยการ และตํารวจ ประชุมคดีตำรวจและพลเรือน ร่วมกันรีดเงินเครือข่ายเว็บพนันกว่า 140 ล้าน ยืนยันไม่ล่าช้า จ่อแจ้งเอาผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายเพิ่ม วันที่ 25 ม.ค. นี้ ก่อนสรุปสํานวนภายใน 60-90 วัน
วันนี้(5 ม.ค. 66) นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ท. อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีรีดไถ่เงินเครือข่ายพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ที่ห้องประชุมสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ภายหลังการประชุม พล.ต.ท. อัคราเดช เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 และมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งตํารวจได้ดําเนินการสอบปากคําพยานเพิ่มเติม อาทิ พยานบุคคล พยานแวดล้อม และพยานที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานเอกสาร โดยจะสรุปสํานวนส่งให้อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภายในกรอบระยะเวลา 60-90 วัน และยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการล่าช้า
ด้าน นายวัชรินทร์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า การที่อัยการเข้ามาร่วมสอบสวนในคดีนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทําให้บุคคลสูญหายหรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งมาตรา 31 ให้อัยการเข้ามาทําหน้าที่กํากับและตรวจสอบไม่ใช่ร่วมสอบสวน โดนในที่ประชุมได้กําหนดแล้วว่าในวันที่ 25 มกราคม 2567 จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาดําเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งตํารวจและพลเรือนตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ส่วนจะมีกี่คนและเป็นใครบ้างนั้น ยังไม่ขอเปิดเผยต้องรอสรุปความชัดเจน เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนสรุปสํานวนเสนอต่ออธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตต่อไป
ทั้งนี้ยืนยันว่าการดําเนินการที่ผ่านมาทางคณะพนักงานสอบสวนไม่ได้มุ่งเอาผิดใคร แต่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายตำรวจระดับสูงและอาจกระทบต่อหน้าที่ทางราชการได้ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน