เกษตรกรร้องกองปราบฯ ถูกโกงค่าขายปลากระพง สูญเงิน 19 รายกว่า 14 ล้าน

วันนี้(9 เม.ย.57)เวลา 13.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายยงยุทธ คชเกร็ง ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ตำบลยกกะบัตร อ.บ้านแพร้ว จ.สมุทรสาคร พร้อมเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระพง จำนวน 19 ราย จากจังหวัดสมุทรสงคราม สมุทสาคร และเพชรบุรี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.วิลาวัลย์ หรือ กานต์สินี ข้อหาฉ้อโกงเงินค่าปลากระพง หลังจากซื้อปลากระพงไปแล้วไม่โอนเงินค่าปลาตามที่ตกลงกัน

นายุทธ เปิดเผยว่า วันนี้ตนพาพี่น้องเกษตรกรที่ประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงปลากระพง ที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้มาติดต่อรับซื้อปลากะพงจากบ่อแล้วไม่จ่ายตังค์โดยมีการจ่ายเช็คล่วงหน้าไว้แต่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง และไม่สามารถติดต่อได้ และรับทราบข่าวจากคนในครอบครัวว่าน.ส.วิลาวัลย์ หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 14 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา

โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพรายนี้ จะสร้างความเชื่อใจให้กับผู้เลี้ยงด้วยการโอนเงินมาให้หลังจากพี่ตกลงซื้อปลาในบ่อ กำหนดระยะเวลา 15 วันก็โอนให้ตามที่ตกลงทันที สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกบ่อแต่ละคน หลังจากนั้นก็วนกลับมาซื้อใหม่อีกครั้งแต่ครั้งที่สองกลับจ่ายเป็นเช็คล่วงหน้าค้ำประกันไว้ แต่เมื่อใกล้ถึงวันที่กำหนดจะขึ้นเงินในเช็คได้ ก็จะโทรติดต่อกลับมาว่าอย่าเพิ่งไปขึ้นเงินเช็คนะ เดี๋ยวจะโอนเงินค่าปลามาให้ รออยู่หลายวันก็ไม่มีเงินโอนเข้าธนาคารสักที เมื่อเอาเช็คไปขึ้นเงินก็เด้ง ขึ้นเงินไม่ได้ ธนาคารที่ออกเช็คแจ้งว่าปิดบัญชีแล้ว

นอกจากนี้มิจฉาชีพรายนี้ยังไปค้ำประกันค่าอาหารปลา โดยบอกกับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาว่า ให้ไปเอาอาหารปลาจากบริษัทจำหน่ายอาหารปลามาก่อนได้เลย เดี๋ยวเขาจะไปชำระเงินค่าอาหารปลาให้เอง แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมโอนเงินชำระค่าอาหารปลาให้ ซึ่งราคาค่าอาหารปลาถุงละ 900 กว่าบาท เวลาเกษตรกรสั่งอาหารปลาครั้งละคันรถจำนวนนับ 100-200 ลูก ทำให้เกษตรกรแต่ละคนเป็นหนี้บริษัทอาหารปลาอีกหลายแสนบาท
ทำให้ทุกคนเดือดร้อนเพราะเงินที่เขาโกงไปต้นทุนพวกเราก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใครที่ไหน จึงต้องมาพึ่งพาขอให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยตามจับมิจฉาชีพรายนี้ด้วย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบถามผู้เสียหายแล้ว ก่อนจะติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป