บิ๊กโจ๊ก ขอเลื่อนไต่สวนมูลฟ้องอัจฉริยะและสื่อหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ส่วนอัจฉริยะยืนยันไม่ไกล่เกลี่ย เดินหน้าเปิดโปงพฤติกรรมทุจริตคอรัปชันบิ๊กโจ๊ก
วันนี้(22 เม.ย.67) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรณีศาลฯ นัดไต่สวนมูลฟ้องคดีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอัจฉริยะ 2 ข้อหา ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยมีสำนักข่าวออนไลน์เป็นจำเลยที่ 1 และนายอัจฉริยะ เป็นจำเลยที่ 2 กรณีนายอัจฉริยะ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีกำนันนกและพูดพาดพิงถึงพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ โดยมีสำนักข่าวออนไลน์นำไปเผยแพร่
นายอัจฉริยะบอกว่า วันนี้ได้มีการตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการเลื่อนคดี ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลื่อนคดีให้ศาลยกฟ้องได้เลย และตนจะแถลงต่อศาลฯ เพื่อให้ศาลฯ พิจารณาจำหน่ายคดี โดยนายอัจฉริยะเชื่อว่าการที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ฟ้องตนในวันนี้ เป็นพฤติกรรมการข่มขู่ ส่วนจะมีการไกล่เกลี่ยกันหรือไม่ตนขอไม่ไกล่เกลี่ย เพราะตนเป็นผู้กำหนดเกม ไม่ใช่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์เป็นผู้กำหนดเกม โดยในสัปดาห์หน้าตนจะเปิดโปงพฤติกรรมการทุจริตคอรัปชันของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน รวมถึงผู้ที่อยู่ในขบวนการทั้งหมดว่ามีใครถือครองทรัพย์สินของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ไว้บ้าง ซึ่งมีคนดังในวงการพระเครื่องถือครองทรัพย์สินแทน เช่น อาวุธปืนและรถหรู ที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนประเด็นที่มีคำสั่งให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนตัวมองว่าเป็นไปตามขั้นตอนที่สามารถทำได้ เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำหรับการไต่สวนมูลฟ้องในวันนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ ไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเองแต่ได้ส่งทนายความมาแทน โดยทนายแถลงต่อศาลว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ติดให้ถ้อยคำเร่งด่วนที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยศาลได้พิจารณาให้เลื่อนไต่สวนมูลฟ้องเป็นวันที่ 8 กรกฎาคม แทน