แม่พาลูกสาววัย 17 ปี ร้องสายไหม เหตุถูกอดีตแฟนใช้มีดฟันบาดเจ็บสาหัส-พิการ

เวลา 10.30 น. วันที่ 15 ก.ค.67 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 นางมะลิซ้อน อายุ 55 ปี อาชีพรับจ้างรายวัน พานางสาวเอ ลูกสาววัย 17 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกอดีตแฟนหนุ่มวัย 19 ปี ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ไร้การเยียวจากครอบครัวผู้ก่อเหตุ

น.ส.เอ เปิดเผยว่า ตนเป็นักศึกษาปวช.ปี 1 ในจังหวัดชลบุรี ได้มีการคบหาและไปพักอาศัยอยู่กับบ้านแฟนหนุ่มวัย 19 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาปวส.ปี 2 โดยที่แม่ไม่ทราบ ก่อนวันเกิดเหตุ ได้ขอเลิกกับแฟน หลังจับได้ว่านอกใจ แต่ฝ่ายชายไม่ยอม พยายามตามง้อขอคืนดี กระทั่งวันเกิดเหตุ 3 พ.ค.67 ขณะนอนเล่น ฝ่ายชายได้เข้ามาและนำโทรศัพท์ไปเปิดดู และทำร้ายร่างกาย กล่าวหาว่าตนนอกใจ และแชทคุยกับชายอื่น ก่อนนำมีดปังตอมาฟันบนหน้าผาก หัว แขน และลำตัว หลายครั้ง จนบาดเจ็บสาหัสและพิการ โดยที่พ่อของฝ่ายชายไม่ห้ามแต่อย่างใด

น.ส.เอ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากอาการบาดเจ็บ ทำให้ตนใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม หยิบจับอะไรไม่ได้ เพราะเส้นเอ็นขาด กระดูกอ่อนแตก มีเพียงแค่มือข้างซ้ายที่พอขยับข้อมือได้ ส่วนอีกข้างขยับไม่ได้ นิ้วก้อยขาด และในส่วนหน้าผากมีเลือดคลั่งในสมองและกะโหลกแตก หูขาดทั้งสองข้าง ตนนอนรักษาโรงพยาบาลประมาณ 18-19 วัน

ด้านนางมะลิซ้อน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวฝ่ายชายไปแล้ว แต่นอกจากข้อหาพยายามฆ่าแล้วทางด้านตนอยากดำเนินคดีพรากผู้เยาว์ด้วย แต่ตำรวจได้มีการแจ้งกับตนว่า ที่แม่พูดว่าจะแจ้งคดีพรากผู้เยาว์ แม่รู้หรือไม่ว่ามาตราอะไร หากไม่รู้ก็ไม่ต้องแจ้ง แค่คดีพยายามฆ่าก็หนักแล้วจะไปเอาอะไรกับคดีพรากผู้เยาว์อีก และสิ่งที่ทำให้ตนติดใจ คือครอบครัวฝ่ายชายไม่เคยเยียวยาตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน แม้แต่มาเยี่ยมหรือโทรก็ไม่เคย ตนอยากให้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากทำงานรับจ้างรายวัน ต้องลาออกมาดูแลลูก ต้องกู้เงินมารักษา และยังต้องนำรถตู้ไปขายเพื่อนำเงินมารักษาลูก โดยค่ารักษารวมแล้วประมาณ 200,000 บาท แต่ตนจ่ายไปแล้ว 50,000 บาท ตนมาร้องสายไหมต้องรอดให้ช่วยคืนความยุติธรรมให้

ขณะที่นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องประสานไปยังพล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ให้มาช่วยดูเรื่องนี้ว่าข้อหาที่ตั้งครบถ้วนแล้วหรือไม่ และจะให้ทีมงานพาผู้เสียหายไปกระทรวงยุติธรรมด้วย เพราะต้องมีเรื่องเงินชดเชยเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม ในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพด้วย