อัยการ เลื่อนฟังคำสั่งคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว เป็น 28 ส.ค. นี้

จากกรณีตำรวจส่งสำนวนคดี “ศรีสุวรรณ-เจ๋งดอกจิก” พร้อมพวก รวม 5 คน ทุจริตต่อหน้าที่โดยเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าว เหตุเกิดที่รัฐสภา เขตตุสิต, กรมการข้าว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และที่ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จำนวน 1.5 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 26 มกราคม 2567 พนักงานสอบสวน ส่งสำนวนคดีให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตฯ 3 สั่งฟ้อง โดยทางอัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 25 ก.ค.67

ล่าสุดวันนี้ (25 ก.ค.67) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นาย ยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” และนายศรีสุวรรณ จรรยา ได้เดินทางมาตามนัดเพื่อฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์อธิบดีกรมการข้าว แลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต โดยพนักงานอัยการ เลื่อนนัดสั่งคดีเป็นวันที่ 28 สิงหาคม นี้ เนื่องจากยังตรวจสำนวนไม่แล้วเสร็จ

นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า วันนี้ตัวเองเดินทางมารายงานตัวตามนัดเบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าโดนข้อหาอะไรบ้าง เพราะเท่าที่ติดตามจากสื่อมวลชนทราบว่าถูกแจ้ง 6 ข้อหา แต่ที่รับทราบจากพนักงานสอบสวนนั้น ขณะนี้มีเพียงแค่ 4 ข้อหา แต่ได้รับรายงานว่ามีการเลื่อนฟังคำสั่งคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวน เพิ่งส่งสำนวนมากที่อัยการเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้พนักงานอัยการ พิจารณาสำนวนไม่แล้วเสร็จ แต่ว่าตัวเองและภรรยาในฐานะ ผู้ต้องหาก็ต้องเดินทางมารายงานตัวตามนัด โดยหลังจากนี้ตัวเองและภรรยา ได้เตรียมที่จะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการ เพราะมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาตัวเองไม่ได้มีการหารือกับกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่น โดยเฉพาะนายศวริศที่เจอกันเพียงครั้งเดียว กระทั่งมาเจอกันในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และช่วงเวลาที่ผ่านมา ตัวเองยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชน เพราะยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือ แต่ส่วนของการร้องเรียน ยอมรับว่า จะต้องมีการทบทวนบทบาทหน้าที่ อีกทั้งต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพราะที่ผ่านมา มีหลายเรื่องที่ตัวเองร้องเรียนไปแล้วได้รับการตรวจสอบ จนประสบความสำเร็จ ดังนั้น หลังจากที่ตัวเองถูกดำเนินคดีจึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะส่วนตัวมองว่าเป็นผลมาจากการที่ตัวเองเดินสายร้องเรียน เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง

ด้านนายยศวริศ เปิดเผยว่า ในส่วนของตัวเองได้รับข้อมูลว่าถูกดำเนินคดี 6 ข้อหา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้ทนายความส่วนตัว ไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการแล้ว แต่หากพนักงานอัยการ มีคำสั่งเลื่อนก็มองว่าเป็นผลดีกับตัวเองและพวก เนื่องจากจะทำให้พนักงานอัยการมีเวลาพิจารณาสำนวนมากขึ้น ยืนยัน ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์แม้จะถูกกล่าวหา แต่ก็มั่นใจในพยานหลักฐาน ที่จะนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนประเด็นกับนายศรีสุวรรณนั้น ไม่มีอะไรที่จะต้องเคลียร์ใจกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งหลังจากสัมภาษณ์แล้วเสร็จทั้งคู่ได้มีการจับมือ ให้กำลังใจกันและกันก่อนจะเดินขึ้นไปพบพนักงานอัยการ