กรมราชทัณฑ์แจง ผู้ต้องหาไลฟ์สด ไม่ได้อยู่ในเรือนจำ คาดถูกคุมขังใน ตม.ชลบุรี

จากกรณีสื่อในเกาหลีใต้ และสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เสนอข่าวว่าผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งถูกคุมขังในประเทศไทย มีการไลฟ์สดจากรถจับกุมและเรือนจำในประเทศไทยนั้น

ล่าสุดทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการทำเอกสารชี้แจงมายังสำนักข่าวอิศรา โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ตามที่สํานักข่าวอิศราได้นําเสนอข่าว ผู้ต้องหาคดียาเสพติดชาวเกาหลีใต้ อายุ 44 ปี ได้อัดคลิป ไลฟ์สดภายในรถคุมขัง และถูกควบคุมตัวภายในสถานที่แห่งหนึ่ง โดยสํานักข่าว Maeil Business Newspaper หรือแมอิล รายงานข่าวกรณีที่ ผู้ต้องหารายดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าได้ลักลอบขนยาเสพติด โดยสํานักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง สภ.หนองปรือ เข้าจับกุมตัวได้ที่โรงแรมในพื้นที่อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 นั้น

กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานว่า สปป.(ปป.1 พื้นที่ภาคกลาง ปท.ส่วนประสานงานต่างประเทศ) ประสานความร่วมมือกับสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง สํานักงานอัยการสูงสุดเกาหลี (SPO) สํานักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี (NIS) และสํานักงานตํารวจแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลี เข้าจับกุมชาวเกาหลี 1 ราย โดยผู้ต้องหา มีพฤติการณ์จัดหายาเสพติด (ไอซ์) จากประเทศไทยส่งไปยังสาธารณรัฐเกาหลี มีความเกี่ยวข้องกับคดีเมื่อเดือน ธันวาคม 2566 ซึ่งทางการเกาหลีตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศที่ส่งมาประเทศไทย พบไอซ์ 38.46 กรัม ซุกซ่อน มาในถุงกาแฟ และถุงถั่ว

ทางการเกาหลีขยายผลจับกุมผู้รับพัสดุดังกล่าว และสอบปากคําทราบว่า ผู้จัดส่ง ยาเสพติด คือ ผู้ต้องหาดังกล่าว ทางการเกาหลีจึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ และสามารถสืบทราบว่า บุคคลดังกล่าวได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย และเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จึงประสานความร่วมมือไปยังสํานักงานตรวจคน เข้าเมือง เพื่อให้พิจารณายกเลิกการตรวจลงตรา (วีซ่า) จากการตรวจสอบของสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่า บุคคลดังกล่าวอยู่เกินกําหนดระยะเวลาอนุญาต (Overstay)

โดยกรมราชทัณฑ์ จึงได้เร่งให้เรือนจําในพื้นที่ดังกล่าว ดําเนินการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งทางเรือนจํา พิเศษพัทยา ได้รายงานว่า ไม่เคยรับตัวผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้รายนี้เข้าควบคุมภายในเรือนจําฯ และภาพ ห้องขังที่ปรากฏภายในคลิปนั้น มิใช่สถานที่ภายในเรือนจํา และจากการตรวจสอบในระบบข้อมูลผู้ต้องขังของ กรมราชทัณฑ์ ไม่พบว่ามีชื่อบุคคลดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ โทรศัพท์มือถือจัดเป็นสิ่งของต้องห้าม และหาก พบว่า มีการนําโทรศัพท์เข้าภายในเรือนจํา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้ต้องขังก็ตาม ถือเป็นความผิดและ ต้องถูกดําเนินการทางวินัยตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ต่อไป

นอกจากนี้ยังมีเอกสารจากกรมราชทัณฑ์อีกฉบับระบุว่า จากการตรวจสอบ ตอนนี้นาย ซอ จองนัม​ อายุ 44 ปี​ ปัจจุบันถูกจับข้อหา​ over stay หรืออยู่เกินวีซ่า ไม่ได้ยึดยาเสพติด ในขณะ Live สด นายซออยู่ในรถควบคุมผู้ต้องหาสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง​ (ตม.) และห้องกัก​ ตม.ชลบุรี​ ไม่ได้อยู่เรือนจำสังกัดกรมราชทัณฑ์แต่อย่างใด โดยสถานะของนายซอ จองนัม ณ เวลานี้ คือรอส่งกลับเกาหลีใต้