แม่ร้องสื่อ! ลูกชายถูกรับน้องโหดเจ็บสาหัส แต่ทางวิทยาลัยกุเรื่องเป็นอุบัติเหตุ

ผู้เป็นแม่ต้องช้ำใจ เมื่อลูกชายสอบติดโรงเรียนดี แต่ไปเรียนได้ไม่กี่วันถูกรุ่นพี่รับน้องจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ตอนแรกอ้างว่าน้องตกบันไดลงมาเอง แต่คนไม่เชื่อจึงไปแจ้งความ ตอนหลังมีรุ่นพี่ออกมายอมรับว่า มีกิจกรรมรับน้อง และเกิดการทำร้ายน้อง ทำให้อาการชักเกร็งหมดสติไป ตอนนี้ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบเรื่องนี้เลย

วันที่ 24 ตุลาคม 2567 น.ส.ธนวันต์ ปานนพภา อายุ 42 ปี ชาวตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นแม่ผู้เสียหาย ร้องสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย ที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ขอให้ทางวิทยาลัยชื่อดังย่านดุสิต ออกมารับผิดชอบ เพราะเหตุเกิดภายในวิทยาลัย

น.ส.ธนวันต์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ได้รับแจ้งจากอาจารย์ของวิทยาลัยที่ลูกชายเรียนอยู่ว่า ลูกชายเดินตกบันได ชั้น 4 ภายในอาคารเรียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว จึงรีบเดินทางไปยังโรงพยาบาล พบว่าหมอกำลังช่วยปั๊มหัวใจลูกชายอยู่ ตนจึงถามอาจารย์ที่นำลูกไปส่งโรงพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้น อาจารย์ได้ตอบว่าลูกชายตนเองตกบันได แต่ตนไม่เชื่อว่าลูกจะตกบันไดจริง เพราะตกบันไดไม่น่าจะบาดเจ็บถึงขนาดนี้ ตนจึงเดินทางไปแจ้งความทันที ตอนนั้นลูกชายตนเองไม่ได้สติ หมอได้แจ้งว่าลูกตนเองได้หยุดหายใจมาตั้งแต่ที่เกิดเหตุแล้ว พอมาถึงโรงพยาบาลจึงช่วยปั๊มหัวใจน้องจนมีชีพจรขึ้นมา แต่ต้องรอปาฏิหาริย์ให้น้องฟื้นตัวขึ้นมาเอง และตอนนี้น้องอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ ถ้าถอดออกน้องอาจจะจากไปทันที

ต่อมาในวันที่ 28 สิงหาสิงหาคม 2567 ทางรุ่นพี่ปี 3 ได้ออกมายอมรับสารภาพกับตนว่า เขาเป็นคนทำร้ายลูกชายตน ด้วยการเตะเข้าที่หน้าอกหนึ่งครั้ง จากนั้นน้องก็มีอาการชักเกร็ง และหมดสติไป จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล โดยอ้างว่ามีพยาน เป็นผู้หญิงชั้น ปวส.ปี1 ที่อยู่ในเหตุการณ์ 1 คน ตนจึงนำเรื่องนี้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน. ดุสิต

สิ่งที่ตนมีข้อสงสัยมีหลายอย่าง คือทางวิทยาลัยอ้างว่าไม่รู้ว่ามีการรับน้องกันบริเวณชั้น 5 ของอาคารเรียน แต่ตนมองว่า ทางวิทยาลัยจะไม่รู้ได้อย่างไร เพราะมีนักเรียนขึ้นไปรับน้องกว่า 40 คน และเรื่องกล้องวงจรปิดทางวิทยาลัยอ้างว่าบริเวณนั้นไม่มีกล้อง แต่ตนไม่เชื่อเพราะ จุดอื่นมีกล้องทั้งหมด เรื่องนี้อาจมีการช่วยเหลือกัน เพราะปกป้องชื่อเสียงโรงเรียน ตอนนี้เรื่องก็ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีใครรับผิดชอบอะไรเลย ลูกตนเองก็นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล โดยใช้สิทธิ์ 30 บาท รักษา หมอบอกให้ทำใจไว้ รอปาฏิหาริย์เท่านั้นลูกตนเองถึงจะกลับมาได้ ตนอยากให้ทางวิทยาลัยออกมารับผิดชอบ

ด้านพ.ต.อ.ณธัชพงศ์ กิรัมย์ ผู้กำกับ สน. ดุสิต ได้ข้อมูลมาว่า ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในคดีนี้ ได้ประสานฝ่ายสืบสวนเข้าเก็บรายละเอียดที่เกิดเหตุไว้หมดแล้ว ตอนนี้สำนวนใกล้เสร็จ อีกไม่กี่วันคงจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการดำเนินการต่อไป