หนุ่มญี่ปุ่น ร้อง ผบ.ตร. ฟัน อาญา-วินัย จ.ส.ต. อมเงินไกล่เกลี่ย 1 แสนบาท

จ่าคิงส์ พาหนุ่มญี่ปุ่นพร้อมเลขาส่วนตัว ร้อง บิ๊กต่าย เอาผิด และฟันวินัย จ.ส.ต.สังกัดตำรวจไซเบอร์ อมเงินไกล่เกลี่ยคดีถูกหลอกทำวีซ่า 1 แสนบาท หลังเป็นตัวกลางไกล่กลี่ยนำเงินมาคืน

นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ อดีต สารวัตรทหารอากาศ พามิสเตอร์ชินอิจิ มาเอดะ ชาวญี่ปุ่น อายุ 51 ปี ที่เปิดบริษัทส่งออกเสื้อผ้า ย่่านโบ๊เบ๊ ประตูน้ำ ส่งไปขายที่ญี่ปุ่น พร้อมกับ น.ส.น้ำตาล เพชรพัชรประสิทธิ์ อายุ 34 ปี เลขาส่วนตัว ยื่นหนังสือร้องทุกข์ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เพื่อให้เร่งรัดกรณีถูกหลอกให้ต่อวีซ่าถาวร สูญเงินกว่า 3 แสนบาทและถูกตำรวจยศ จ.ส.ต. สังกัด บช.สอท.2 ตัวกลางไกล่เกลี่ย ไม่ยอมนำเงินที่ผู้ก่อเหตุชดใช้มาคืนให้ จำนวน 100,000 บาท

น.ส. น้ำตาล กล่าวว่า ที่มาวันนี้เพราะอยากขอความเป็นธรรมและร้องเรียนกับทาง.ผบ.ตร.หลังถูกคนไทยหลอกทำวีซ่า โดยมีตำรวจ สังกัดตำรวจไซเบอร์ เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ซึ่งคนที่เป็นคดีกับฝ่ายตนเอง ได้ทำการคืนเงินมาให้แล้ว 100,000 บาท แต่คืนผ่านตำรวจรายนี้ แต่ตำรวจคนดังกล่าว กลับไม่คืนเงินให้ แต่เอาไปใช้ส่วนตัวจนหมด มีการทวงถามหลายครั้ง ก็บอกว่าจะคืนให้แต่สุดท้ายก็ไม่มีเงินคืนและเงียบหายไปไม่มีการติดต่อกลับมา ซึ่งทราบว่าตอนนี้ก็ยังปฎิบัติหน้าที่ตามปกติ ทั้งที่การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมาย และวินัย จึงอยากให้รับผิดชอบนำเงินมาคืนเรื่องจะได้จบกันไป แต่หากไม่คืนก็ควรลงโทษทางวินัยกับตำรวจรายนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงไว้ที่ สน.เพชรเกษม และได้มีคนแนะนำให้เข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ที่เมืองทองธานี จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ บช.สอท. แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของไซเบอร์ ได้แนะนำกับตนว่า ให้เปลี่ยนไปเป็นทำสัญญาเงินกู้ เพื่อเปลี่ยนคดีจากอาญาไปเป็นคดีแพ่ง เพื่อที่จะได้เงินคืน กระทั่งมีการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อชดใช้ แต่ตำรวจยศ จ.ส.ต.ที่เป็นคนกลาง กลับไม่นำเงินมาคืน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ยอมรับต่อหน้าผู้บังคับบัญชาว่าทางฝ่ายคู่กรณีได้นำเงินมาคืนและให้มอบกับทางผู้เสียหาย 100,000 บาท