ศาลอาญายกฟ้อง 67 แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปิดล้อมสนามบินดอนเมือง ช่วงปี 2551 ในความผิดฐาน “ร่วมกันชุมนุมปลุกปั่นยุยงก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง
วันนี้ (29 มี.ค.2567) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา คดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปิดล้อมสนามบินดอนเมือง ช่วงปี 2551 ซึ่งคดีนี้ พนักงานอัยการคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ฟ้องกลุ่มแกนนำ กับ กลุ่มผู้ชุมนุมรวม 67 คน ในความผิดฐาน ร่วมกันชุมนุมปลุกปั่นยุยงก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง
นอกจากนี้ ยังถูกกล่าวหาว่า นำจานรับสัญญาณโทรทัศน์ของจำเลยไปติดตั้งใกล้เครื่องรับสัญญาณเรด้าร์ ของบริษัท วิทยุการบินฯ ปิดกั้นสะพานกลับรถ ตรวจค้นตัวเจ้าหน้าที่บริษัทการบินไทย ร่วมกันขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลและทรัพย์สิน ทำลายทรัพย์สินของบริษัท ของท่าอากาศยานไทยฯ เสียหาย 627,080 บาท เพื่อกดดันให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้นลาออกจากตำแหน่ง
คดีนี้สืบเนื่องมาก จากเหตุชุมนุมปิดล้อมสนามบินดอนเมืองระหว่างวันที่ 24 พ.ย. ถึง 3 ธ.ค.2551 คดีดังกล่าวถูกแยกดำเนินคดีออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรก ศาลฯตัดสินไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้พิพากษาให้แกนนำ คือนายสนธิ ลิ้มทองกุล จ่ายค่าปรับ 20,000 บาท ส่วนจำเลยที่เหลือ เช่น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และคนอื่น ๆ ศาลยกฟ้องทั้งหมด
ล่าสุด ศาลฯพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 67 คน ในคดีปิดล้อมสนามบินดอนเมืองปี 51
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 67 คน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าวว่า ศาลพิจารณาโดยเห็นว่าพวกจำเลย เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมมาจากหลายอาชีพ ทั้งศิลปิน นักร้อง ดารา สื่อมวลชน อดีตเอกอัคราชทูต มาชุมนุม เพื่อคัดค้านการดำรงตำแหน่งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ซึ่งเป็นน้องเขยของ นายทักษิณ ชินวัตร มีการทุจริตเชิงนโยบาย และศาลฎีกาแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร หลายคดี โดยเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่เป็นความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ฐานชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ มาตรา 116 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขัง และข่มขืนใจผู้อื่น จึงมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมดทุกข้อหา