วันนี้ (23 เม.ย.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. มีมติรับทราบผลการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงและความเห็นของคณะทำงาน และหลักการของโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ทั้งกลุ่มเป้าหมาย แนวทางการเข้าร่วมโครงการ เงื่อนไขการใช้จ่าย ประเภทสินค้า การลงทะเบียนร้านค้า
ขณะที่แหล่งเงินการดำเนินโครงการ ซึ่งกระทรวงการคลัง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงบประมาณ จะศึกษาในรายละเอียดต่อไป
“ส่วนข้อห่วงใยต่อโครงการ เช่น ประเด็นอำนาจหน้าที่ของ ธ.ก.ส. ก็ได้สั่งการว่าให้ส่งเรื่องไปสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณา โดยยอมรับว่า ทุก ๆ พรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นชอบในหลักการของโครงการดังกล่าว” นายกฯ ระบุ
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เคาะวันที่จะเริ่มต้นโครงการ เพราะขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบมารองรับ โดยรัฐบาลได้พยายามเร่งรัด และจะทำให้เกิดความรอบคอบ โดยเฉพาะการจัดทำแอปพลิเคชันทั้งความเสถียร และความปลอดภัยของข้อมูลต่าง ๆ ด้วย แต่ยังยืนยันตามกรอบเดิมคือ ลงทะเบียนไตรมาสที่ 3 และ เปิดใช้ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้
ทั้งนี้นายกฯ สั่งการในที่ประชุมว่า หากมีข้อสงสัยในเรื่องข้อกฎหมายใด ๆ ก็ตาม ให้ดำเนินการส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วินิจฉัยต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้ดูในรายละเอียดแล้ว และมีความมั่นใจว่าเป็นไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ แต่เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด รัฐบาลก็พร้อมสอบถามกฤษฎีกา