นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถก ครม.นอกสถานที่ เดินหน้าเศรษฐกิจสีเขียว-ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

วันนี้ (14 พ.ค.67) ที่ห้องประชุมพะนอมแก้วกำเนิด อาคารสุเมธตันติเวชกุล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2567 ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร) ภายใต้สโลแกน “ฐานเศรษฐกิจสีเขียว และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ” โดยมี คณะรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ในการนี้ นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายนรเศรษฐ สองทอง ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 14 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรมชลประทานในครั้งนี้ โดยกรมชลประทาน เสนอโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ และเป็นความต้องการของภาคีการพัฒนา (กรอ.) ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ทั้งหมด 16 โครงการ อาทิ

จังหวัดเพชรบุรี
• โครงการฝายแม่น้ำปราณบุรี
• โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนอ่างเก็บน้ำหนองไก่เถื่อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
• โครงการก่อสร้างอาคารฝายน้ำล้นแบบ FLOOD WAY ในพื้นที่กันเขตของอ่างเก็บน้ำห้วยผากฯ
• โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองอรรถสิทธิ์พร้อมส่วนประกอบ
• โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ตำบลหนองกะปุ
• โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำ อ่างเก็บน้ำหนองเปราะ
• โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองบางจากและคลองปากง่าม
• โครงการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำห้วยตาเทียบ
• โครงการจัดหาน้ำให้ศูนย์เพาะเลี้ยงม้าและสัตว์ทดลอง สภากาชาดไทย
• โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมอาคารประกอบ สนับสนุนโรงเรียนเพชรบุรีปัญญานุกูล

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
• โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำอ่างเก็บน้ำเขาคันหอก

จังหวัดสมุทรสงคราม
• โครงการแก้ไขปัญหาระบบป้องกันน้ำเค็มบุกรุก โดยใช้ระบบชลประทานในจังหวัดสมุทรสงคราม
• โครงการพัฒนาแก้มลิงทุ่งหิน

จังหวัดสมุทรสาคร
• โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะริมตลิ่งในพื้นที่ชุมชน
• โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำพร้อมอาคารประกอบ คลองนิคม 2
• โครงการก่อสร้างกำแพงกันดิน พร้อมอาคารประกอบ คลองนิคม 2

ทั้งนี้ หากได้รับการเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี กรมชลประทาน จะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำ ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจให้ครอบคลุมทุกมิติ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้ประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป