ผู้สมัครสว. จี้ กกต.ไม่ควรอุทธรณ์ศาลปค.สูงสุด เหตุการแนะนำตัวผู้สมัครถูกเพิกถอน

วันนี้ (27 พ.ค.67) ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ภาคประชาชน เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยื่นข้อร้องเรียนต่อกกต. กรณีศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้เพิกถอนระเบียบ กกต. 5 ข้อ ทำให้การแนะนำตัวจะไม่มีข้อจำกัดทั้งในแง่ของรูปแบบ เนื้อหา ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวกันได้อย่างอิสระ แต่ทางผู้สมัครสว. ภาคประชาชน มีความกังวลที่ กกต. จะยื่นอุทรณ์ภายใน 30 วัน ซึ่งพ้นระยะเวลาการเลือก สว. แล้ว ดังนั้นผู้สมัคร จึงเรียกร้องต่อกกต. ไม่ให้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัครสว. 2567 โดยข้อเรียกร้องมีทั้งหมด 4 ข้อ กกต. ต้องยืนยันอย่างเป็นทางการโดยเร็วที่สุดว่าจะไม่อุทธรณ์คำเพิกถอนของศาลปกครองกลาง เพื่อให้ผู้สมัครสามารถเลือกได้ว่าสามารถแนะนำตัวได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใด และให้ผู้สมัคร สว.สามารถแนะนำตัวได้อย่างปราศจากความหวัดกลัวและเสมอภาคเท่าเทียม

นายแพทย์ไพโรจน์ สว่างตระกูล ผู้สมัครสว. กล่าวว่า ประชาชนควรมีสิทธิ์ มีอำนาจอธิปไตย ตามที่ศาลปกครองกลางกล่าวไว้ว่า เป็นอำนาจของปวงชนชาวไทย ก่อนหน้านี้กกต. ได้ประมาณการผู้สมัครสว. ไว้ที่ 100,000 คน ขึ้นไป กับเหลือเพียงแค่ 40,000 คน และในจำนวนนี้ยังมีการจัดตั้งมา ซึ่งความเป็นจริงแล้วตัวเลขจะหลงเหลืออยู่เท่าไหร่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับจำนวนประชากรของประเทศ

ด้านนายธีรชาติ ก่อตระกูล ผู้สมัครสว. กล่าวว่า ด้วยกฎระเบียบต่างๆ และการแนะนำตัว อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้มีผู้มาสมัครสว. น้อย ซึ่งกฎการแนะนำตัวถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติ ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถควบคุมการสื่อสารเฉพาะกลุ่มได้ เพราะปัจจุบันเป็นสื่อออนไลน์หมดแล้ว และทุกคนเป็นเจ้าของสื่อได้ ตนมองว่ากกต.ยังมีทางเลือกกลับมาสร้างความหวัง ให้ประชาชนมีส่วนรวมในการเลือกสว. และหากการเลือกครั้งนี้ไม่โปร่งใส ผลเหล่านั้นก็จะตกอยู่กับประชาชนทุกคน จึงอยากให้เปิดเผยและโปร่งใส่มากที่สุด และให้ประชาชนได้มีสิทธิ์รู้จักกับผู้สมัครสว.

ทั้งนี้ นายทวีป วานิชย์หานนท์ ผู้สมัครสว. ยังเปิดเผยข้อมูลการสมัคร สว.กลุ่มที่ 8 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาฯ และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน ที่จังหวัดชุมพร ซึ่งพบความผิดปกติอยู่ประมาณ 9 คน พากันมาสมัครในวันท้าย ๆ และไม่ได้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน แต่ทำอาชีพเจ้าของโฮมสเตย์ ค้าเหล็กไหล ค้าไม้ล้มลุก และ อปพร.จึงขอให้ กกต.เร่งตรวจสอบ