เครือข่ายนศ.ยื่นสอบกรมราชทัณฑ์เลือกปฏิบัติกับ”ทักษิณ”แบบVIP

กลุ่ม คปท. เดินทางเข้ายื่นหนังสื่อกระทรวงยุติธรรม เรียกร้องขอให้มีการปฏิบัติกับนายทักษิณ ชินวัตร เยี่ยงนักโทษรายอื่นๆ มองกรมราชทันบริการนายทักษิณดั่ง vip

วันนี้(24 ส.ค.)เครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดยนายนัสเซอร์ ยีมะ และนายพิชิต ไชยมงคล นำเครือข่าย 5-10 คน เดินทางมายังกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ ยื่นหนังสือถึงนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ว่า ทำไมถึงปฏิบัติกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตกเป็นผู้ต้องขังเป็นกรณีพิเศษ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า กรมราชทัณฑ์เลือกปฏิบัติกับนักโทษในเรือนจำ อาจจะส่งผลให้กรมราชทัณฑ์ตกเป็นเครื่องมือให้แก่นักโทษทางการเมืองหรือไม่ โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับมอบหนังสือ

โดยก่อนการยื่นหนังสือ ได้มีประชาชนไม่ทราบฝ่ายประมาณ 4 คน มาชูป้ายแสดงความไม่พอใจ ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ถูกปฏิบัติโดยกรมราชทัณฑ์แบบเลือกปฏิบัติ จึงทำให้มองว่าเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์และมองว่าคุกมีไว้สำหรับขังคนจน และในระหว่างการยื่นหนังสือ ประชาชนกลุ่มนี้ก็ได้ตะโกนต่อว่ากระทรวงยุติธรรม แสดงความไม่พอใจโดยกล่าวอ้างว่าเลือกปฏิบัติกับ

นายนัสเซอร์ ยีมะ แกนนำเครือข่าย ระบุว่า ขณะนี้สังคมเกิดคำถามต่อการปฏิบัติของราชทัณฑ์ต่อนาบทักษิณ ทั้งที่ที่ผ่านมานายทักษิณแข็งแรงตลอด แต่พอเข้าประเทศแลถูกคุมขังไม่ถึงข้ามคืน กลับถูกนำตัวไปรักษาตัว รพ. เกิดคำถามว่า  นายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ นักโทษคนอื่นที่ล้มป่วยได้สิทธิแบบนี้ไหม และเป็นเลือกปฏิบัติของทางกรมราชทัณฑ์กับกระทรวงยุติธรรมหรือไม่

เพื่อเป็นการตอบคำถามสังคมจึงขอเรียกร้องให้ทาง กระทรวงยุติธรรมนำแพทย์ที่อยู่นอกสังกัดโรงพยาบาลตำรวจมาร่วมตรวจสอบและวินิจฉัยอาการโรคของนายทักษิณที่โรงพยาบาลว่าป่วยจริงหรือไม่ ต้องใช้กฎเกณฑ์นี้กับนักโทษทุกคนโดยไม่ละเว้น มิใช่ใช้กับนายทักษิณแต่เพียงผู้เดียว  และการขอพระราชทานอภัยโทษ ต้องเป็นไปตามพระราชอำนาจ ไม่เป็นการรบกวนเบื้องยุคลบาท เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีนักโทษคดีการเมืองหรือคดีทุจริตแบบเดียวกับนายทักษิณ ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษมาก่อน

ก่อนจะทิ้งท้ายเน้นย้ำว่า ขอให้กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ใช้กฎระเบียบกับนักโทษอย่างเท่าเทียมกับทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ เพราะตอนนี้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยอย่างมากว่าจะเป็นการช่วยเหลือนายทักษิณโดยอาศัยช่องโหว่กฎระเบียบหรือไม่

ด้านนายสหการณ์ ระบุว่า ขอขอบคุณเครือข่ายที่มายื่นหนังสือตรวจสอบการทำงาน แต่ขอให้ทุกคนเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน แต่ในประเด็นที่นำนายทักษิณไปโรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นอำนาจของเรือนจำตามกฎหมาย สิ่งสำคัญคือ หน้าที่ของราชทัณฑ์ต้องดูแลคุณภาพชีวิตนักโทษ โดยเฉพาะเรื่องเจ็บป่วย ไม่อาจละเลยได้ และมีองค์กรสิทธิตรวจสอบ ถ้าไม่ทำก็ถือว่ากรมราชทัณฑ์บกพร่องในหน้าที่ ส่วนการเอาแพทย์ข้างนอกมาตรวจนั่น ต้องดูว่าตามระเบียบมีอำนาจหรือไม่

แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่านายทักษิณอยู่ภายใต้ระเบียบของกรมราชทัณฑ์เฉกเช่นกับนักโทษคนอื่นทุกประการ  ไม่มีการช่วยเหลือกันแต่อย่างใด โดยเฉพาะประเด็น ที่ว่า จะเป็นเงื่อนไขทำให้นายทักษิณได้รับการพักโทษและออกจากเรือนจำติดกำไล EM หรือไม่นั้น ระบุว่า นายทักษิณจะต้องรับโทษ 1 ใน 3 ก่อนเท่านั้น ทุกอย่างมีขั้นตอนตามระเบียบ หากเกิดการช่วยเหลือข้ามระเบียบขึ้นมา ก็ถือว่าเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยและเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น ย้ำแน่ชัดว่านายทักษิณมีสิทธิ์ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการส่วนตัวได้ เฉกเช่นกับนักโทษทั่วไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ส่วนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษหรือไม่เป็นไปตามพระราชอำนาจ ไม่มีลัดขั้นตอน ส่วนการพระราชทานอภัยโทษตามโอกาสพิเศษนั้น มีเงื่อนไขกำหนดชัดว่าต้องเป็นนักโทษ จำคุก 1 ใน 3 ของโทษที่ได้รับก่อนเท่านั้น อย่างไรก็ตามการ ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบ กรมราชทัณฑ์นั้น ทางกระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการตรวจสอบให้