“ธนดล” ที่ปรึกษากฎหมาย ร.อ.ธรรมนัส ควง “วิณะโรจน์ เลขา ส.ป.ก” ร้อง “ปปง.” ตรวจสอบ ยึดทรัพย์ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.โคราช ทุจริตออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินรุกป่ามรดกโลกเขาใหญ่ เตรียมขอศาล ออกหมายจับ 2 ข้าราชการ ตามมาตรา 157 และ 149 และเตรียมสอบเพิ่มอีก 7 ราย
วันนี้(11 มี.ค.67) ที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ (ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า) พร้อมด้วยนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) เดินทางเข้าพบนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีมีเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือบุคคลบางกลุ่มกระทำความผิดในเขตปฎิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เช่น การลักลอบขุดดินเพื่อนำออกจำหน่าย และการใช้ประโยชน์ในที่ดินผิดวัตถุประสงค์ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อหารือแนวทางตรวจสอบทรัพย์สินและยึดทรัพย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทุจริตทั้งหมด
นายธนดล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ดินซึ่งมีข้อพิพาทเรื่องโฉนด ส.ป.ก. ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็พบความผิดปกติของเจ้าหน้าที่รัฐที่ชัดเจนแล้ว 2 ราย และเจ้าหน้าที่เตรียมขอศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับเจ้าหน้าที่ตามความผิดในมาตรา 157 และมาตรา 149 และเตรียมสอบเจ้าหน้าที่อีก 7 ราย ว่ารู้เห็นเกี่ยวกับกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน พบ 4-5 รายจากทั้ง 3 จุด พบว่ามีพฤติกรรมเสมือนเป็นนายทุนแล้ว 1 ราย มีชื่อเป็นผู้ถือครองที่ดิน 1 จุด โดยมีพฤติกรรมเหมือนเกษตรกร แต่แท้จริงไม่ใช่ แต่เป็นนายทุนที่มีกำลังทรัพย์สูงมาก อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
ด้านนายวิณะโรจน์ เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า ภายหลังการหารือกับทางสำนักงาน ปปง. พบว่าคดีนี้เข้าข่ายความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ในเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตต่อหน้าที่ และ ความผิดเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการค้า ซึ่ง ปปง. ก็จะมีการตั้งอนุกรรมการตรวจสอบคดีนี้ร่วมกับ 9 หน่วยงาน อาทิ สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลที่ดินของรัฐ เพื่อดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนนายวิทยา โฆษกสำนักงาน ปปง. แจงว่า การตั้งอนุกรรมการเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้นั้น ทาง ปปง. จะตรวจสอบว่าพื้นที่ใดเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อการค้าและเข้าข่ายความผิดบ้าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนความผิดมูลฐานตามกฎหมายการฟอกเงินนั้น เจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริต ก็มีความผิดชัดเจนทั้งทางอาญาและทรัพย์สิน แต่ในส่วนของการยึด ถือ ครอบครองที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายจะคุ้มครองพี่น้องเกษตรกรที่เข้าไปทำประโยชน์เกษตรกรรมจริงๆ ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ ต้องไปดูกันให้ชัดเจนเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย