เมื่อเร็ว ๆนี้ กระทรวงมหาดไทย ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ มีเนื้อหานายอำเภอหรือปลัดอำเภอ ในฐานะเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต สามารถอนุญาตให้เปิดบ่อนประเภทให้สัตว์ต่อสู้ได้ตามสภาพที่เหมาะสมในพื้นที่ ตามหนังสือสั่งการเรื่อง ให้มีการซักซ้อมแนวทางการอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันประเภทให้สัตว์ต่อสู้กันหรือแข่งขันสัตว์
ในหนังสือฉบับดังกล่าว ยังได้ระบุให้เจ้าพนักงาน ใช้ดุลพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบเหมาะสม และไม่เป็นการทรมานหรือทารุณสัตว์ และยังให้เหตุผลว่าการพิจารณาอนุญาตเปิดบ่อน เป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น อันนำมาซึ่งรายได้ให้กับชุมชนและอาชีพที่สุจริต ป้องกันแรงงานผลัดถิ่น รวมถึงบ่อนไก่บ่อนปลา ต้องตั้งในสถานที่มิดชิดไม่ให้เด็กหรือเยาวชนแลเห็น อันสะท้อนให้เห็นว่า กระทรวงมหาดไทย มีความเป็นห่วงถึงผลกระทบต่างๆที่อาจมีต่อสังคม รวมทั้งเข้าใจวัฒนธรรมความเป็นอยู่คนในท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็หวังว่าจะส่งเสริมรายได้ในระบบเศรษฐกิจชุมชน
ด้วยข้อเท็จจริง เรื่องการพนันทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน ก็มีการถกเถียงกันมาตลอดว่าควรเอาขึ้นมาบนดินหรือไม่ เช่นเดียวกับบ่อนวัว บ่อนไก่ บ่อนปลากัด ที่กระทรวงมหาดไทย กำลังจะเปิดอนุญาตอีกครั้ง เพราะด้านหนึ่งสังคมมองว่าเป็นการส่งเสริมให้คนติดการพนัน อีกฝ่ายก็บอกว่าแม้ไม่อนุญาตก็ลักลอบเล่นกันอยู่ให้เห็นทั่วไป หากเปิดให้ถูกกฎหมายและมีการจัดการที่ดี โดยเน้นการป้องกันหรือปิดจุดบกพร่องที่จะส่งผลต่อสังคม ก็จะก่อเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามมามากมายมหาศาล
ดังนั้นการกลับมาอนุญาตเปิดบ่อนวัว ไก่ ปลา ในครั้งนี้ หากบริหารจัดการที่ถูกต้องเหมาะสมโปร่งใส ก็น่าจะเป็นการดีกว่าปล่อยให้ทำกันแบบเดิมๆ เช่น การให้ประชาชนและท้องถิ่นเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเปิดหรือไม่เปิด การจัดสรรรายได้หรือผลประโยชน์ที่เกิดจากกิจการบ่อนให้กับประชาชนในท้องถิ่น การส่งเสริมกิจกรรมต่อเนืองเกี่ยวกับตลาดค้าขายพันธุ์สัตว์ เป็นต้น หากทำได้ก็จะเกิดประโยชน์กับชาวบ้านกับชุมชนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย