สาวร้องถูกหนุ่มอินเดียหลอกร่วมรัก พบ LGBT+สาวสวย ตกเป็นเหยื่อและติดเชื้อกว่า 100 คน

สาวร้อง หนุ่มอินเดียมหาภัย อ้างเป็นหนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับตามหารักแท้ หลอก หนุ่ม LGBT และสาวสวย ย่านบางนา แบริ่ง สมุทรปราการ ไปร่วมหลับนอนแล้วกว่า 100 คน ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื้อ

วันที่ 24 กันยายน 2567 สาวผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ถูกหนุ่มอินเดีย อ้างเป็นหนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับตามหารักแท้ หลอก หนุ่ม LGBTQ+ และสาว ไปร่วมหลับนอนแล้วกว่า 100 คน จนทำให้ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์หลายคน

นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตัวเองทำงานเป็นครูสอนทำเล็บอยู่ย่านแบริ่ง ซึ่งช่วงเดือนสิงหาคม หนุ่มคนอินเดียรายหนึ่งได้ขับรถผ่านบริเวณที่ตัวเองทำงาน จากนั้นเขาได้ขับรถกลับมาบอกว่าต้องการทำเล็บ แต่วันนั้นตัวเองปฏิเสธ และแจ้งว่าคิวเต็มแต่เขาก็พยายามตื้อจนตัวเองยินยอมรับงาน ซึ่งจากนั้นเค้าได้ขอเบอร์เพื่อติดต่อและพูดคุยและเขาพยายามติดต่อมาหาตัวเองบ่อยครั้ง สอบถามถึงข้อมูลส่วนตัวและพยายามชวนไปเที่ยว จากนั้นตัวเองจึงได้ลองคุยและคบหากัน

จนกระทั่งวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา เขาชวนออกไปทานข้าว จึงยินยอมเพราะได้พูดคุยกันมาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว ซึ่งวันนั้นได้ไปดื่มกินด้วยกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กันโดยชายไม่ได้สวมถุงยางอนามัย ซึ่งหลังจากแยกย้ายกันฝ่ายชายได้บล็อกการติดต่อตัวเองทุกช่องทาง จนกระทั่งตัวเองสามารถติดต่อกับแฟนสาวของหนุ่มอินเดียได้ จนได้รู้ความจริง ว่าหนุ่มอินเดีย มีพฤติกรรมหลอกลวงทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่หน้าตาดี เพื่อมีเพศสัมพันธ์ด้วย และจากการบอกเล่าของแฟนสาวของหนุ่มอินเดีย รายดังกล่าวว่ามีเหยื่อที่ถูกหลอกแบบเดียวกันอีกกว่า 100 คน ในพื้นที่แบริ่ง สำโรง บางนาและจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้หญิงบางคนที่ถูกหนุ่มอินเดียหลอกให้ออเลอเซ็ก จนบาดแผลบริเวณปาก ส่วนจะเป็นเชื้อชนิดใดยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน

ส่วนอาการปัจจุบันของตังเอง พบว่ามีอาการคันและแสบบริเวณอวัยวะเพศ รวมทั้งปัสสาวะติดขัด แต่ยังไม่ได้ไปตรวจเลือดหรือพบแพทย์อย่างเป็นทางการ ส่วนอาการแฟนสาวของหนุ่มอินเดียที่ได้มีการพูดคุยกัน ก็มีลักษณะเช่นเดียวกันมานานกว่าหนึ่งปี

ด้านนายเอกภพ เผยว่า หลังจากนี้ก็จะพาผู้เสียหายไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหาเชื้อ หลังจากนั้น ก็จะพาไปแจ้งความ เนื่องจากถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นภัยสังคม เชื่อว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งเจตนาครั้งนี้ถือว่าเป็นจงใจแพร่เชื้อ จึงฝากถึงผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายให้ระวังบุคคลดังกล่าวไว้ด้วย