วันที่ 3 ต.ค.66 ที่ ชั้น 16 อาคารพิทักษ์สันติ บก.ปปป. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาการแทน ผบก.ทล. เป็นประธานประชุมร่วม ปปป. ปปท. ร่วมกับ ทางวัดบางคลาน โดยเจ้าอาวาส พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร มาร่วมประชุมด้วย เพื่อเตรียมการแก้ปัญหาเข้าวัดไม่ได้
หลังประชุม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า มีการหารือให้เจ้าอาวาสวัดวัดบางคลาน ทำหนังสือมอบอำนาจให้กับทางตนเอง เพื่อใช้ในการบังคับใช้กฎหมายในการส่งมอบ วัดบางคลานคืน ซึ่งการรับมอบอำนาจในวันนี้จะทำให้ ปปป. มีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบและทำการส่งคืนสถานที่ให้กับทางเจ้าอาวาส รวมถึงยังเป็นการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านและเจ้าอาวาส ด้วย ทั้งนี้นายอัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้ามาเป็นตัวกลางในการประสานงานด้วยโดยพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน ระบุว่าเนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถเข้าไปดำเนิน การบริหารวัดได้เพราะจะมีกลุ่มคนเข้ามาคอยขัดขวาง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีหน่วยงานของรัฐในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือรวมถึงมีนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ไม่สามารถช่วยเหลือให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในวัดได้ ในวันนี้จึงเดินทางมาร้องให้ทาง ปปป เพื่อเข้ามาช่วยดำเนินการคลี่คลายปัญหานี้ พร้อมกันนี้ตนเองยังทำหนังสือมอบอำนาจให้ทางผู้บังคับการ ปปป. และข้าราชการที่เกี่ยวข้องรับมอบอำนาจในการเข้าไปจัดการทางกฎหมายของทางวัดพล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาดังกล่าวกินระยะเวลานานมากกว่าเจ็ดถึงแปดปียังไม่แล้วเสร็จ วันนี้ตนเองเป็นผู้รับมอบอำนาจในการเข้าไปดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคืนพื้นที่วัดให้กับทางเจ้าอาวาส โดยมีหน่วยงานราชการในพื้นที่อาทิเช่นนายอำเภอโพทะเล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพทะเล และทางปปท. เป็นผู้ร่วมรับมอบอำนาจจากครั้งนี้ด้วย
สำหรับการดำเนินการต่อจากนี้จะเป็นการปฏิบัติโดยการใช้หลักดำเนินการไล่จากเบาไปหาหนักโดยการเน้นในเรื่องของการเจรจาหาทางออกกับทางกลุ่มชาวบ้าน หากสามารถเคลียร์ปัญหาและหาทางออกจากการเจรจาได้ก็จะเป็นเรื่องดีแต่หากไม่สามารถดำเนินการได้ทางปปป. ก็จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถึงที่สุดโดยขั้นตอนการดำเนินการต่อจากนี้จะมีการกันเจ้าอาวาสออกไปจากการปฎิบัติงานทั้งหมดเพื่อเปิดทางให้กับหน่วยงานรัฐที่ได้รับมอบอำนาจเข้ามาดำเนินการอย่างเต็มอำนาจหน้าที่
ด้านนายอัจฉริยะ ระบุว่า ตนเองยังมีรายชื่อของชาวบ้านในจังหวัดพิจิตรนับ 1,000 คน ที่ลงชื่อสนับสนุนเจ้าอาวาสให้เข้าไปปฎิบัติหน้าที่ พร้อมพร้อมกันนี้ยังได้มีการพูดคุยกับทางทนายความของทางเจ้าอาวาส ในการพิจารณาตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐในพื้นที่ที่มีการเข้าไปช่วยขอคืนพื้นที่ก่อนหน้านี้ เข้าข่ายทำความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยตนเองเป็นผู้รับมอบอำนาจเข้ามาดำเนินการในครั้งนี้ก็พร้อมทำงานกับทางปปป. เพื่อช่วยให้เจ้าอาวาสสามารถกลับเข้าวัดได้